กระเป๋าสัมภาระ

คุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสัมภาระใช่หรือไม่

สัมภาระเช็คอิน

Scoot มีนโยบายในการให้บริการที่คำนึงถึงทางเลือกที่หลากหลายเป็นสำคัญ ดังนั้น แพ็คเกจตั๋วโดยสารของเราจึงมีน้ำหนักสัมภาระที่แตกต่างกัน เพื่อให้คุณได้เลือกตามความสะดวก

FlyBag / FlyBagEat

โควต้าน้ำหนัก 20 กก.

น้ำหนักกระเป๋า 20 กก
ScootPlus

โควต้าหนัก 30 กก.

น้ำหนักกระเป๋า 30 กก

หรือจะเลือกแพ็คเกจ Fly ซึ่งไม่มีโควต้าให้โหลดสัมภาระใต้ท้องเครื่องก็ได้

แต่หากคุณต้องการโหลดสัมภาระเพิ่ม คุณสามารถซื้อน้ำหนักสัมภาระทางออนไลน์เพิ่มได้ถึง 40 กก. ไม่ว่าแพ็คเกจตั๋วโดยสารของคุณจะเป็นแบบใดก็ตาม

ไม่ต้องเสี่ยงกับการจ่ายค่าธรรมเนียมสนามบินที่แสนแพง เพียงซื้อน้ำหนักสัมภาระเช็คอินล่วงหน้าถ้าน้ำหนักเกินจากโควต้าที่ได้รับอนุญาต คุณจะต้องชำระค่าน้ำหนักส่วนเกินนั้น แนะนำให้เตรียมตัวล่วงหน้า!

ซื้อน้ำหนักสัมภาระตอนนี้เลย!

สัมภาระติดตัว

ชั้นประหยัด

จำกัดสัมภาระขึ้นเครื่องสูงสุด 2 ชิ้น น้ำหนักรวมไม่เกิน 10 กก.

Economy Cabin Baggage Weight and Dimension Allowance
ScootPlus

จำกัดสัมภาระขึ้นเครื่องสูงสุด 2 ชิ้น น้ำหนักรวมไม่เกิน 15 กก.

Scootplus Cabin Baggage Weight and Dimension Allowance

ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นที่นั่งชั้นไหน เราอนุญาตให้คุณถือกระเป๋าขึ้นเครื่องได้เพียง 1 ชิ้น โดยต้องมีขนาดไม่เกิน 54 ซม. x 38 ซม. x 23 ซม. (มิติทางยาวต้องไม่เกิน 115 ซม.) และสัมภาระชิ้นนี้ต้องพอดีกับช่องเก็บสัมภาระด้านบน

สัมภาระขึ้นเครื่องอีกชิ้นที่เล็กกว่า ต้องมีขนาดไม่เกิน 40 ซม. x 30 ซม. x 10 ซม. และต้องพอดีกับการวางไว้ใต้ที่นั่งด้านหน้าของคุณ

ไม่มีน้ำหนักสัมภาระสำหรับเด็กทารก

ก่อนจะถึงสนามบิน โปรดทำให้แน่ใจว่าสัมภาระขึ้นเครื่องเป็นไปตามข้อบังคับ ไม่เช่นนั้นคุณจะถูกแนะนำให้ทำการเช็คอินสัมภาระ และอาจต้องจ่ายค่าธรรมเนียมส่วนเกิน

สัมภาระที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน

บางครั้ง คุณอาจจะมีสัมภาระขนาดใหญ่ หรือหนัก มากับคุณเมื่อทำการบิน โดยปกติแล้ว อุปกรณ์กีฬาและเครื่องดนตรีสามารถโหลดใต้ท้องเครื่อง หรือนำขึ้นเครื่องได้ แต่มีข้อห้ามบางอย่างสำหรับสัมภาระที่ใหญ่และเยอะเกินมาตรฐาน

หากคุณต้องการขนส่งสัมภาระประเภทนี้บนเที่ยวบินของเรา โปรดติดต่อบริษัทตัวแทนขนส่งประจำท้องถิ่น

อุปกรณ์กีฬา

อุปกรณ์กีฬาของคุณ เช่น ไม้กอล์ฟ, เซิร์ฟบอร์ด, เรือแคนู, ชุดดำน้ำลึก, สกี และจักรยาน จะถูกนับรวมไปกับโควต้าสัมภาระฟรี แต่หากเกินโควต้าที่กำหนด จะมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมสำหรับสัมภาระที่เกินมานโยบายนี้มีผลต่อคุณหากคุณเดินทางสู่/ออกจาก สหรัฐอเมริกา

เราไม่สามารถรับสัมภาระที่มีน้ำหนักเกิน 32 กิโลกรัมเพื่อโหลดใต้ท้องเครื่องได้ และสัมภาระเหล่านี้จะต้องถูกแพ็คใหม่อีกครั้ง หรือส่งเป็นสินค้าแทน โปรดติดต่อบริษัทตัวแทนขนส่งประจำท้องถิ่นก่อนหน้าการเดินทาง หากคุณต้องการขนส่งสัมภาระที่น้ำหนักเกิน 32 กิโลกรัม เป็นสินค้าแทน

เครื่องดนตรีขนาดใหญ่เกินมาตรฐาน

เครื่องดนตรีขนาดใหญ่เกินกว่ามาตรฐาน เช่น เชลโล และดับเบิลเบส ไม่สามารถนำขึ้นมาเป็นสัมภาระขึ้นเครื่องได้ หากคุณไม่ต้องการโหลดเครื่องดนตรีใต้ท้องเครื่อง คุณอาจนำเครื่องดนตรีขึ้นเครื่องได้โดยการซื้อที่นั่งพิเศษเพิ่มเพื่อวางเครื่องดนตรี เราจะทำการวางเครื่องดนตรีไว้บนพื้นและมัดไว้กับเก้าอี้นั่งด้วยเข็มขัด

หลังจากที่บรรจุในหีบห่ออย่างเหมาะสมแล้ว เครื่องดนตรีของคุณควรมีขนาดไม่เกิน 140 ซ.ม. x 40 ซ.ม. x 45 ซ.ม. และน้ำหนักไม่เกิน 32 กิโลกรัม

การขนส่งกระเป๋าเดินทางพลังงานแบตเตอรี่ลิเธียม

กระเป๋าเดินทางพลังงานแบตเตอรี่ลิเธียม (ที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ “กระเป๋าเดินทางอัจฉริยะ”) อาจจะรวมถึงมอเตอร์, พาวเวอร์แบงค์, GPS, GSM, บลูทูธ, เทคโนโลยี RFID หรือ Wi-Fi

ข้อกำหนดปัจจุบันทั้งหมดเกี่ยวกับ การขนส่งแบตเตอรี่ลิเธียม จะถูกบังคับใช้กับการขนส่ง “กระเป๋าเดินทางอัจฉริยะ”

นอกจากนี้ จะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดต่อไปนี้ เพื่อที่ “กระเป๋าเดินทางอัจฉริยะ” จะได้รับการยอมรับ:

A. สัมภาระขึ้นเครื่อง:

  • แบตเตอรี่ลิเธียมจะต้องมีขนาดไม่เกิน 160 Wh
  • กระเป๋าเดินทางจะต้องอยู่ในข้อกำหนดที่ได้รับอนุญาตสำหรับสัมภาระขึ้นเครื่อง
  • ฟังก์ชั่นการส่งสัญญาณทั้งหมด (เช่น การติดตาม GPS, บลูทูธ, Wi-Fi) จะต้องเป็นไปตามข้อจำกัด PED ในบัตรข้อมูลความปลอดภัยของผู้โดยสารบนเครื่องบิน
B. สัมภาระเช็คอิน:
  • แบตเตอรี่ลิเธียมจะต้องถูกถอดออกและพกพาขึ้นเครื่อง
  • แบตเตอรี่ลิเธียมจะต้องมีขนาดไม่เกิน 160 Wh
  • ผู้โดยสารแต่ละท่านสามารถพกพาแบตเตอรี่ลิเธียมสำรองได้มากที่สุดสอง (2) ก้อน ที่ขนาด 100-160Wh ขึ้นไปบนเครื่องได้
ถ้า “กระเป๋าเดินทางอัจฉริยะ” ไม่ตรงตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัย ก็จะถูกปฏิเสธไม่ให้เช็คอิน และจะเป็นหน้าที่รับผิดชอบของผู้โดยสารในการจัดการสำหรับการจัดเก็บหรือกำจัดวัตถุดังกล่าวก่อนขึ้นเครื่อง

 

ค่าธรรมเนียมสัมภาระ

ดูค่าธรรมเนียมการจองและสัมภาระทั้งหมดได้ที่นี่ หรืออ่านคำถามที่ถามบ่อย หากยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสัมภาระ

การต่อเครื่อง

Scoot ไม่รับผิดชอบในการจัดส่งสัมภาระเช็คอินของคุณไปยังเที่ยวบินต่อไปและปลายทางสุดท้าย ไม่ว่าคุณจะต่อเครื่องไปยังเที่ยวบินอื่นของ Scoot หรือเที่ยวบินของพันธมิตรถือเป็นความรับผิดชอบของคุณที่จะต้องรับสัมภาระจากสายพานรับสัมภาระ ผ่านการตรวจคนเข้าเมือง เช็คอินเที่ยวบินต่อไป และเช็คอินสัมภาระของคุณอีกครั้ง

เว้นแต่กรณีที่คุณได้ซื้อ Scoot-Thru ในการเดินทางไว้เท่านั้น

สิ่งของพิเศษและวัตถุต้องห้าม

อุปกรณ์กีฬา ของใช้เด็กอ่อน และเครื่องดนตรีอาจนำมาเช็คอินรวมกับน้ำหนักสัมภาระเช็คอินที่อนุญาตได้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดขนาดและพื้นที่ว่างหากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านเงื่อนไขการขนส่ง

สเปรย์ & สารมีพิษ

Sprays & poisons

สารมีพิษ

Toxic Substances

แบตเตอรีลิเธียม

Lithium Batteries

ก๊าซไวไฟ

Gases & Flamables

อาวุธต่างๆ

Weapons

สัตว์

Pets & animals

ห้ามไม่ให้นำวัตถุอันตรายใดๆ ขึ้นเครื่องหรือใส่ไว้ในสัมภาระเช็คอิน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

การตรวจสัมภาระในสหรัฐอเมริกา (US)

หน่วยงานด้านความปลอดภัยในการเดินทางของประเทศสหรัฐอเมริกา (TSA)กำหนดให้ผู้โดยสารที่เดินทางเข้าและออกจากสนามบินพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกา ไม่สามารถเข้าถึงสัมภาระเช็คอินได้อีกต่อไปหลังจากที่การตรวจคัดกรองสัมภาระสิ้นสุด ดังนั้น เราแนะนำให้คุณนำสิ่งของที่คุณต้องการนำขึ้นเครื่องไปด้วยออกจากกระเป๋าก่อนทำการเช็คอินสัมภาระ

หน่วยงานด้านความปลอดภัยในการเดินทางของประเทศสหรัฐอเมริกา (TSA) แนะนำให้ผู้โดยสารปลดล็อคสัมภาระ หรือใช้ตัวล็อคที่ยอมรับโดย TSA สำหรับกระบวนการตรวจสัมภาระ TSA จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดจากการล็อกกระเป๋าหากมีการถูกเปิดเพื่อตรวจคัดกรอง สำหรับกระเป๋าที่ถูกเปิดระหว่างการคัดกรอง จะมีการปิดด้วยซีลที่บ่งชี้ร่องรอยการตรวจคัดกรอง และจะมีการใส่ใบประกาศในกระเป๋าเพื่อแจ้งให้ทราบว่ากระเป๋าถูกเปิด

ขณะที่ขั้นตอนนี้ถูกควบคุมโดยนิติบัญญัติสหรัฐอเมริกา และอยู่นอกเหนือการควบคุมของสายการบิน เราเสียใจที่เราไม่สามารถรับผิดชอบต่อความเสียหาย หรือการสูญหายของสิ่งของจากสัมภาระของคุณได้ คุณสามารถเข้าไปตรวจสอบที่เว็บไซต์ของหน่วยงานด้านความปลอดภัยในการเดินทางของประเทศสหรัฐอเมริกา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

หากคุณเดินทางออกจากสนามบินที่เป็นจุดสุดท้ายของการออกเดินทางสู่สหรัฐอเมริกา หน่วยงานด้านความปลอดภัยในการเดินทางของประเทศสหรัฐอเมริกา (TSA) อาจขอให้ผู้โดยสารเข้าทำการตรวจเช็คตามมาตรการรักษาความปลอดภัย การตรวจเช็คอาจรวมถึงการตรวจสอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ส่วนตัว (PEDs) และสารในรูปแบบผง ก่อนการขึ้นเครื่อง

  1. แล็ปท็อป
  2. แท็บเล็ต
  3. อุปกรณ์ที่ใช้อ่านหนังสืออิเลคทรอนิคส์
  4. กล้อง
  5. เครื่องเล่นดีวีดีแบบพกพา
  6. เครื่องเกมอิเล็กทรอนิกส์ที่มีขนาดใหญ่กว่าสมาร์ทโฟน
  7. ปริ๊นเตอร์/สแกนเนอร์ แบบพกพา

ยกเว้นสิ่งของต่อไปนี้ เราแนะนำให้นำสารในรูปแบบผงทุกชนิดเข้าทำการเช็คอินด้วย

  1. ยาที่จ่ายทางการแพทย์ที่เป็นรูปแบบผง
  2. อาหารนมสำหรับเด็ก
  3. อัฐิ หรือเถ้ากระดูกของมนุษย์

เราแนะนำให้คุณถือเอกสารที่เกี่ยวข้องสำหรับการยืนยันและตรวจสอบ

การตรวจเช็คสัมภาระสำหรับทุกเที่ยวบินที่เดินทางออกจากออสเตรเลีย

หากคุณเดินทางออกจากสนามบินใดๆก็ตามของออสเตรเลีย โปรดทราบถึงข้อห้ามในการพกพาสารที่มีลักษณะเป็นผงบนสัมภาระขึ้นเครื่อง

ที่จุดเช็คสัมภาระ สารที่มีลักษณะเป็นผงซึ่งอยู่ในสัมภาระขึ้นเครื่อง จะต้องถูกแยกออกมาต่างหาก เพื่อตรวจเช็ค อย่างไรก็ตาม ไม่มีความจำเป็นต้องใส่บรรจุภัณฑ์ที่มีผงอยู่ด้านในลงในถุงพลาสติกปิดผนึก

ผงอนินทรีย์
(มีข้อห้าม)
ผงอินทรีย์
(ไม่มีข้อห้าม)
เกลือ
เกลือขัด
ทราย
แป้งทัลคัมบางชนิด
ผงดับกลิ่นบางชนิด
ผงระงับกลิ่นเท้าบางชนิด
ผงซักฟอก และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด
นมผงเด็ก
อาหารผง
กาแฟ
ผงโปรตีน
แป้ง, เครื่องเทศ, น้ำตาล
เครื่องสำอางส่วนใหญ่
เกลือเอปซอม
โปรดจำไว้ว่าไม่มีข้อจำกัดสำหรับจำนวนของผงอินทรีย์ เช่น อาหาร หรือนมผงเด็ก

ผงอนินทรีย์ต้องถูกเก็บไว้ในบรรจุภัณฑ์ 350 มิลลิลิตร (จำนวน), 350 กรัม (น้ำหนัก) หรือน้อยกว่า ข้อห้ามอิงจากจำนวนของบรรจุภัณฑ์ทั้งหมด ไม่มีข้อจำกัดสำหรับจำนวนบรรจุภัณฑ์ของสารอนินทรีย์ต่อคน บนเงื่อนไขที่จำนวนสารอนินทรีย์ในบรรจุภัณฑ์ทั้งหมด อยู่ที่ 350 มิลลิลิตร หรือน้อยกว่า

โปรดตรวจสอบได้ ที่นี่ เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อบังคับ

แบตเตอรี่ลิเธียม

วิธีการเก็บแบตเตอรี่ลิเธียมของคุณและอัตราวัตต์-ชั่วโมงของแบตเตอรี่ (Wh) จะเป็นตัวตัดสินว่าคุณสามารถพกพาแบตเตอรี่เดินทางไปด้วยได้หรือไม่ คุณสามารถใช้คู่มือต่อไปนี้ในการช่วยตรวจดูว่าแบตเตอรี่ของคุณได้รับอนุญาตบนเที่ยวบินสกู๊ตหรือไม่:

เธียมไอออน
/แบตเตอรี่โลหะ*
อนุญาตในสัมภาระขึ้นเครื่องอนุญาตในสัมภาระเช็คอิน
น้อยกว่า 100Wh
เช่น แล็ปท็อป, โทรศัพท์มือถือ และกล้องถ่ายรูปดิจิทัลและกล้องวิดีโอ
ในอุปกรณ์:อนุญาต

อะไหล่สำรอง: อนุญาต
1. ไม่เกิน 20 ชิ้นต่อผู้โดยสาร
2. จะต้องได้รับการป้องกันจากความเสียหายและการลัดวงจร
ในอุปกรณ์:อนุญาต

อะไหล่สำรอง: ไม่อนุญาต
100 ถึง 160Wh
เช่นอุปกรณ์วิดีโอ และอุปกรณ์ทางการแพทย์แบบพกพา
ในอุปกรณ์:อนุญาต

อะไหล่สำรอง: อนุญาต
1. ไม่เกิน 2 ชิ้นต่อผู้โดยสาร
2. จะต้องได้รับการป้องกันจากความเสียหายและการลัดวงจร
ในอุปกรณ์:อนุญาต

อะไหล่สำรอง: ไม่อนุญาต
มากกว่า 160Wh
เช่น โคมไฟใต้น้ำ
ในอุปกรณ์:ไม่อนุญาต

อะไหล่สำรอง: ไม่อนุญาต
ในอุปกรณ์:ไม่อนุญาต

อะไหล่สำรอง: ไม่อนุญาต
อุปกรณ์ขนส่งส่วนบุคคล

เช่น สกู๊ตเตอร์, เซกเวย์, โฮเวอร์บอร์ด เป็นต้น ที่เคลื่อนที่ได้ด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่
ห้ามอย่างเคร่งครัด ห้ามอย่างเคร่งครัด

*วัตต์ ชั่วโมง (Wh) = แอมป์ ชั่วโมง (Ah) x แรงดันไฟฟ้า (V)
แบตเตอรี่และอุปกรณ์พลังงานแบตเตอรี่ทั้งหมดจะต้องมีไว้สำหรับการใช้ส่วนบุคคลเท่านั้น (ไม่ใช่เพื่อนำไปขายหรือจำหน่ายโดยผู้ขาย)

ข้อกำหนดเพิ่มเติม

ชุดแบตเตอรี่ชนิดชาร์จไฟได้ เช่น พาวเวอร์แบงค์ เป็นต้น จัดเป็นแบตเตอรี่ลิเธียมสำรอง การขนส่งวัตถุเหล่านี้ขึ้นอยู่กับกฎระเบียบข้อบังคับท้องถิ่น

ทั้งนี้ ไม่อนุญาตให้พกพาแบตเตอรี่ลิเธียมสำรองในสัมภาระเช็คอิน โดยจะต้องพกพาเป็นสัมภาระขึ้นเครื่องเท่านั้น

ห้ามไม่ให้พกพาแบตเตอรี่หรืออุปกรณ์ที่เสียหายหรือถูกเรียกขึ้นบนเครื่องบิน

แบตเตอรี่สำรองควรจะอยู่ในลักษณะการประกอบบรรจุจากผู้ผลิตดั้งเดิม มิฉะนั้นจะต้องป้องกันแบตเตอรี่จากความเสียหายและการลัดวงจร คุณควรปิดเทปพาดส่วนโลหะของแบตเตอรี่ (ขั้วต่อ) หรือวางแบตเตอรี่แต่ละก้อนในเคสป้องกันของมันเองหรือในถุงพลาสติก

แบตเตอรี่จะต้องถูกติดตั้งในอุปกรณ์เมื่อทำการเช็คอิน

จะต้องปิดการทำงานของอุปกรณ์ที่ทำงานด้วยพลังงานแบตเตอรี่ทั้งหมดในสัมภาระเช็คอิน (ไม่ใช่อยู่ในโหมด Hibernate หรือโหมด Sleep ที่ใช้พักเครื่องแบบประหยัดพลังงาน) โดยอุปกรณ์จะต้องถูกเก็บบรรจุเพื่อป้องกันการเปิดใช้งานโดยไม่ได้ตั้งใจ และป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหาย

การติดตามสัมภาระ

สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับการติดตามสัมภาระและร้องเรียนปัญหาในกรณีที่สัมภาระของคุณล่าช้าหรือได้รับความเสียหาย โปรดคลิกที่นี่